พอล สโคลส์ อดีตกองกลางแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับรู้สึกใจหายเป็นอย่างมากตอนที่ต้นสังกัดขาย นิกกี้ บัตต์ ออกจากทีมไปเมื่อปี 2004 ระบุตอนนั้นรู้สึกหดหู่มากๆ เพราะสนิทกับ บัตต์ เป็นอย่างดี พร้อมยกย่อง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นคนที่เก่งมากในเรื่องของการตัดสินใจปล่อยตัวนักเตะออกจากทีม

พอล สโคลส์ และ นิกกี้ บัตต์ ต่างเป็นหนึ่งในอคาเดมี่ของ “ปีศาจแดง” และยังเป็นหนึ่งในนักเตะชุด “คลาส ออฟ 92”
โดยทั้งพอล สโคลส์และ นิกกี้ บัตต์ ต่างเป็นหนึ่งในอคาเดมี่ของ “ปีศาจแดง” และยังเป็นหนึ่งในนักเตะชุด “คลาส ออฟ 92” อันโด่งดัง และทั้งสองก็ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเวลาใกล้ๆ กัน แต่ในปี 2004 “ปีศาจแดง” ตัดสินใจขาย บัตต์ ให้กับนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด หลังจากในช่วงนั้นอดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษไม่ได้รับโอกาสลงเล่นมากเท่าที่ควร ส่วน พอล สโคลส์ ได้ลงเล่นกับทีมต่อและกลายเป็นสุดยอดตำนานในตอนท้าย
อดีตจอมทัพของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และทีมชาติอังกฤษ เปิดเผยว่า “ทุกอย่างมันเป็นเส้นทางของข่าววงการฟุตบอล แน่นอนเมื่อคุณได้เล่นทีมชุดใหญ่และมีเพื่อนๆ ตามมาด้วย 5 – 6 คน ทุกคนต่างมีความหวังว่าจะได้เล่นด้วยกันไปถึง 20 ปี หรือจนแขวนสตั๊ด แต่ในความเป็นจริงมันไม่ง่ายแบบนั้น ผมสนิทกับเขา (นิกกี้ บัตต์) มาก อาจจะเรียกได้ว่าเป็นคู่ซี้กันเลยก็ได้ ดังนั้น ผมจึงรู้สึกหดหู่มากเมื่อตอนที่เห็น นิกกี้ บัตต์ เดินออกจากทีมไป”

พร้อมกันนี้พอล สโคลส์ยังได้กล่าวยกย่อง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตเจ้านายของตัวเองว่าเป็นคนหนึ่งที่ตัดสินใจในเรื่องของการปล่อยนักเตะได้ดีมากๆ โดย พอล สโคลส์ กล่าวต่อไปว่า “หลายๆ ครั้งนักเตะก็ไม่เห็นด้วยกับการที่จะขายพวกเขาออกจากทีม แต่ทุกอย่างเป็นเรื่องปกติของวงการฟุตบอล นักเตะอย่าง ดไวท์ ยอร์ค, แอนดี้ โคล, เท็ดดี้ เชอริ่งแฮม และ ยาป สตัม ต่างเป็นนักเตะชั้นยอดแต่เฟอร์กูสัน ก็ยังขายพวกเขาออกจากทีมไป และหาคนเข้ามาทดแทนได้ดีอยู่เสมอ เฟอร์กุสัน เป็นคนที่รู้ว่าจังหวะไหนควรจะขายนักเตะออกไปและควรจะดึงใครเข้ามาแทน และนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงเป็นทีมชั้นยอดอยู่ในตอนนี้”